มีทุนน้อยแต่อยากเล่นบาคาร่าทำอย่างไรดี นักพนันหลายคนมักเกิดความกังวลว่าเมื่อมีทุนน้อยแต่ต้องการต่อยอด โดยการเล่นบาคาร่าจะสามารถทำได้หรือไม่ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าได้แน่นอน เพราะการเดิมพัน บาคาร่าฝากไม่มีขั้นต่ำ มีเพียง 1 บาทก็สามารถเล่นบาคาร่าได้ และยังมีสิทธิรับเครดิตรีจำนวนมากอีกด้วย

บาคาร่าฝากไม่มีขั้นต่ำ 1 บาทก็เล่นได้

หากคุณมีทุนน้อยแล้วอยากเข้ามาต่อยอดโดยการเล่นบาคาร่า คุณสามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องกังวล เนื่องจากการเดิมพันบาคาร่าคุณสามารถฝากได้ไม่มีขั้นต่ำ หรือจะฝากขั้นต่ำที่ 1 บาทก็ได้เช่นกัน เรียกว่าเป็นการบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักพนันได้ดีมาก ๆ ดังนั้นไม่ว่าจะมีทุนเท่าไหร่ก็เล่นบาคาร่าได้อย่างแน่นอน และอาจจะทำกำไรกลับมาได้อย่างมากมายไม่แพ้คนที่มีทุนเยอะเลยทีเดียว

ฝากไม่มีขั้นต่ำ แถมได้เครดิตฟรี คุ้มที่สุด

เดิมพันบาคาร่านอกจากจะสามารถฝากได้ไม่มีขั้นต่ำแล้ว คุณยังไม่สิทธิรับเครดิตฟรีจากทางเว็บอีกจำนวนมากเลยทีเดียว ซึ่งการรับเครดิตฟรีโดยการฝากไม่มีขั้นต่ำนั้นก็มีเงื่อนไขการรับที่ง่ายมาก ๆ จึงถือเป็นการเดิมพันที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าจะเล่นบาคาร่าด้วยจำนวนทุนที่น้อยแต่หากได้รับเครดิตฟรีก็จะทำให้มีทุนที่เพิ่มมากขึ้น สามารถนำไปต่อยอดในการเดิมพันได้คุ้มค่าที่สุด

เล่นบาคาร่าฝากไม่มีขั้นต่ำ รับรองคุ้มค่ากับทุกการเดิมพัน เพราะไม่ต้องมีทุนมากก็สามารถต่อยอดเพื่อให้ได้กำไรที่คุ้มค่าได้อย่างง่าย เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณมีเงินทุนในจำนวนกำจัดก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่มารถเล่นบาคาร่าได้ เพราะบาคาร่าฝากได้ตั้งแต่ 1 บาท แต่กำไรที่ได้จากการเดิมพันมากกว่านั้นแน่นอน แถมยังได้ความสนุกอย่างเต็มที่อีกด้วย

กติกาบาคาร่าออนไลน์ กฎที่ต้องรู้ก่อนเล่น

กติกาบาคาร่าออนไลน์

ในการเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์ เป็นเกมการพนันที่ให้เลือกว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายผู้เล่น Player และฝ่ายเจ้ามือ Banker สำหรับการเล่นจะใช้ไพ่ 6 – 8 สำรับ ซึ่งแต่ละสำรับมีไพ่ 52 ใบ รวมเป็นไพ่ทั้งหมด 312 – 416 ใบ

การนับแต้ม

สำหรับเกมพนันบาคาร่าออนไลน์จะตัดสินกันด้วยการนับแต้มของไพ่บนมือ 2 – 3 ใบ แต้มสูงสุด คือ 9 แต้ม โดยการนับแต้มมีกติกาดังนี้

• A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
• 2 – 9 มีค่าเท่ากับจำนวนเลขบนหน้าไพ่
• 10, J, Q, K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม

การหักเงินในเกมบาคาร่าออนไลน์

• การหักเงินในเกมบาคาร่าออนไลน์ สามารถหักได้ 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ การหักคอมมิชชั่น 5% และการไม่หักเงิน
• การหักคอมมิชชั่น 5% การหักคอมมิชชั่นจะเกิดขึ้นเมื่อท่านนั้นได้วางเดิมพันในฝ่ายเจ้ามือ (Banker)

ส่วนการที่ไม่หักเลย หรือการไม่หักเงิน ก็คือการที่ท่านนั้นวางเดิมพันในฝ่ายของผู้เล่น (Player) นั่นเองครับ

วิธีการลงเดิมพันบาคาร่า

เมื่อเลือกห้องเดิมพันเกมพนันบาคาร่า ออนไลน์ ได้แล้วต่อไปการลงเดิมพัน โดยมีวิธีการดังนี้

• เลือกชิปตามจำนวนเงินที่ท่านต้องการลงเดิมพัน (กรอบสีแดง)
• เมื่อเลือกชิปตามจำนวนที่ต้องการเดิมพันได้แล้วให้คลิกเลือกลงเดิมพันที่ช่องใดก็ได้ตามที่ต้องการ (กรอบสีเหลือง)
• เมื่อเวลาหมดทางเว็บจะเปิดไพ่ของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายไหนแต้มเยอะกว่าหรือได้ 9 แต้ม จะเป็นฝ่ายชนะ เป็นการจบการเดิมพันในรอบนั้น

ตารางไพ่บาคาร่า เตรียมพร้อมก่อนการเดิมพัน

วันนี้เราจะมารู้จักตารางไพ่บาคาร่า และวิธีการสังเกตเค้าไพ่บาคาร่า เพื่อการเดิมพันไพ่บาคาร่าให้ได้กำไรมากที่สุด

• ตารางไพ่บาคาร่า แบบลูกปัด (Bead Plate)

สัญลักษณ์ลูกบอลกลม ๆ ที่อยู่บนตารางไพ่บาคาร่า นั้นมีชื่อเรียกหลากหลายชื่อด้วยกัน เช่น ไข่ปลา ลูกเต๋า ลูกปัด ลูกบอล ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ใช้บอกผลว่าฝ่ายผู้เล่น หรือฝ่ายเจ้ามือ ฝั่งไหนเป็นฝั่งที่ชนะ และลูกบอลจะแสดงสีที่แตกต่างกันดังนี้

สีน้ำเงิน = ฝั่งผู้เล่นชนะ

สีแดง = ฝั่งเจ้ามือชนะ

สีเขียว = เสมอ

• ตารางไพ่บาคาร่า ถนนใหญ่ (Big Road)

ตารางถนนใหญ่ หรือ Big Road คือช่องตารางการแสดงสถิติผลการชนะการเดิมพันทั้งทางฝั่งผู้เล่น ฝั่งเจ้ามือ และสีเขียวจะหมายถึงเสมอกัน เจ้ามือเป็นสีแดง ผู้เล่นเป็นสีน้ำเงิน การแสดงผลจะแตกต่างจากรูปแบบ Bead Plate อย่างเห็นได้ชัด และในแบบ Big Road เราสามารถมองรูปแบบของเค้าไพ่ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นการแสดงสถิติเหล่านี้จะเริ่มต้นที่มุมบนซ้ายสุดไล่ลงมาเรื่อย ๆ

โดยผู้เล่นชนะจะถูกวงเป็นสีน้ำเงิน แต่ถ้าเจ้ามือเป็นฝ่ายชนะจะถูกวงเป็นสีแดง และจะมีการไล่แสดงสถิติไปเรื่อยๆจนกว่าจะเริ่มต้นคอลัมน์ใหม่ และถ้ามีการแสดงสถิติการชนะในฝั่งเดิมซ้ำติดต่อกันเกิน 6 ครั้ง จะมีชื่อเรียกว่า หางมังกร หรือ “Dragon Tail” ซึ่งนักพนันไพ่บาคาร่าคงรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้าง

• ตารางไพ่ Baccarat ไข่ปลา

ตารางไพ่บาคาร่าไข่ปลา หรือ Big Eye Boy จะแสดงสถิติเป็นสัญลักษณ์วงกลมสีน้ำเงิน สีแดง และสีเขียว ในตราราง ซึ่งใช้บอกว่าฝั่งไหนเป็นผู้ชนะ จะสังเกตเห็นได้ว่าในช่องตารางของรูปแบบไข่ปลาใน 1 ช่องจะแสดงลูกบอลทำจำนวน 2 แถว ตารางไพ่บาคาร่า ไข่ปลา หรือ Big Eye Boy จะเริ่มต้นแสดงที่มุมบนฝั่งซ้ายสุดก่อนจะไล่ลงมาเรื่อย ๆ ถ้าออกสีเดิมซ้ำกัน แต่จะขึ้นคอลัมน์ใหม่ถ้ามีผลการชนะที่ต่างกัน

• ตารางไพ่บาคาร่า แบบซาลาเปา

ตารางไพ่ชนิดนี้นั้นจะมีความคล้ายกับรูปแบบ ไข่ปลา อยู่บ้าง คือแสดงสถิติฝั่งของผู้ชนะไล่ลงมาเรื่อยๆ จากมุมบนซ้ายสุดหากชนะติดต่อกันเรื่อย ๆ ก็จะไล่ลงมาเรื่อย ๆ และจะเริ่มต้นใหม่ก็ต่อเมื่อฝั่งชนะได้เป็นสีเป็นสีอื่นที่แตกต่างกัน ซึ่งข้อแตกต่างกันของตารางไพ่แบบซาลาเปา กับแบบไข่ปลานั้น คือ จะต้องเลื่อนคอลัมน์จาก 1 คอลัมน์ มาเป็น 3 คอลัมน์ในตาราง

• ตารางไพ่ Baccarat แบบไม้ขีด

ตารางไพ่แสดงสถิติแบบ ไม้ขีด หรือ Cockroach Pig นั้นมีความคล้ายคลึงกับตารางไข่ปลา และตารางซาลาเปา นั่นก็คือใช้แสดงสถิติในการบอกว่าฝั่งผู้เล่น หรือว่าฝั่งเจ้ามือเป็นผู้ชนะ ซึ่งมีข้อแตกต่างกันก็คือ สัญลักษณ์ที่แสดงสถิตินั้นจะขีดเส้นเหมือนกับไม้ขีด ไม่แสดงเป็นรูปแบบวงกลมเหมือนกับ ตารางแบบไข่ปลา หรือแบบซาลาเปา

โดยการแสดงสถิติจะเริ่มต้นที่มุมบนฝั่งซ้ายสุดก่อน และหากผลชนะออกมาเป็นฝั่งเดิมซ้ำๆ ก็จะแสดงสถิติไล่ลงมาเรื่อยๆ และจะเริ่มต้นแถวใหม่ก็ต่อเมื่อมีผลการชนะที่ต่างกันนั่นเอง และนี่คือตารางไพ่บาคาร่าในรูปแบบต่างๆ ที่เรานำเอามาให้ท่านนักพนันมือใหม่ได้เรียนรู้กัน

ไพ่นกกระจอก (Mahjong)

เกมไพ่รูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศจีนและญี่ปุ่น แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว ยังถือว่าเป็นเกมที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากความยากในการหาอุปกรณ์ และกฎกติกาที่ค่อนข้างซับซ้อน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเริ่มมีการนำไพ่นกกระจอกเข้าสู่ระบบออนไลน์ ทำให้เรื่องอุปกรณ์การเล่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และทำให้คนไทยเริ่มหันมาสนใจเกมนี้กันมากขึ้น

วิธีการเล่นเกม ไพ่นกกระจอก

เกมไพ่นกกระจอกนั้น เป็นเกมไพ่สำหรับผู้เล่น 2-4 คน โดยผู้เล่นแต่ละคนจะมีไพ่ในมือคนละ 13 ตัว และต้องผลัดกัน จั่ว เก็บ หรือทิ้งไพ่ เพื่อให้ได้ไพ่ชุดบนมือตามที่ต้องการ ซึ่งถ้ามองเผิน ๆ เกมไพ่นกกระจอกจะคล้ายกับไพ่ดัมมี่ที่คนไทยคุ้นเคย

วิธีการชนะในเกมไพ่นกกระจอก

ในการที่จะชนะเกมไพ่นกกระจอกนั้น ผู้เล่นจะต้องทำการ จั่ว เก็บ ทิ้ง ไพ่จนกว่าจะสามารถเปิดชุดไพ่ให้ครบ 4 ชุด จากการเก็บไพ่ 3 แบบที่มีในเกม ได้แก่ “เฉ่า”, “ผ่อง” หรือ “กั่ง”  นอกจากนี้ในมือจะต้องมีไพ่คู่เหมือนกันที่เรียกว่า “หนั่ง” อีก 1 คู่ด้วย ถึงจะสามารถ น็อค ได้ โดยเวลาน็อคในเกมไพ่นกกระจอกจะต้องพูดว่า “เหมาะเจี๊ยะ”

ชุดไพ่แต่ละแบบในเกมไพ่นกกระจอก

1.  เฉ่า

“เฉ่า” คือไพ่ชุดเรียงกัน 3 ตัว โดยจะเก็บได้จากไพ่ประเภทชุดตัวเลขเท่านั้น และการจะเฉ่าได้นั้นเราจะต้องมีไพ่เรียงในมือ 2 ตัวและรอให้ผู้เล่นที่มีทิศสูงกว่าเราทิ้งไพ่เรียงใบที่ 3 ลงมา (ในเกมไพ่นกกระจอกจะถือว่าคนที่นั่งทางซ้ายมีทิศสูงกว่า) และทันทีที่เขาทิ้งตัวที่เรารออยู่ลงมา ให้เราพูดว่า “เฉ่า” เพื่อเป็นการเก็บไพ่ที่เขาทิ้งมาเป็นของเรา จากนั้นจึงเปิดชุดไพ่เฉ่าที่เราเรียงเสร็จเรียบร้อยแล้ว

2. ผ่อง

“ผ่อง” คือไพ่ชุดที่เหมือนกัน 3 ตัว หรือชุดไพ่ตอง โดยจะสามารถเก็บได้จากไพ่ทุกประเภททั้งตัวเลขและตัวอักษร ซึ่งการจะผ่องได้นั้น เราจะต้องมีไพ่คู่ในมือ 2 ตัว และรอให้ผู้เล่นคนใดก็ได้ ทิ้งไพ่ที่เหมือนกันใบที่ 3 ลงมา (การผ่องสามารถเก็บไพ่ข้ามตำแหน่งทิศได้) และทันทีที่เขาทิ้งไพ่ตัวที่เรารออยู่ลงมา ให้เราพูดว่า “ผ่อง” เพื่อเป็นการเก็บไพ่ที่เขาทิ้งมาเป็นของเรา จากนั้นจึงเปิดชุดไพ่ผ่องที่เรารวมมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

3. กั่ง

 “กั่ง” คือไพ่ชุดเหมือนกัน 4 ตัว โดยจะเก็บได้จากไพ่ทุกประเภททั้งตัวเลขและตัวอักษร ซึ่งชุดไพ่กั่งสามารถเก็บได้ 2 วิธี ด้วยกัน

แบบแรก คือ “กั่ง” ในกรณีที่เราต้องมีไพ่ที่เหมือนกันในมือ 3 ตัวอยู่แล้ว และรอให้ผู้เล่นคนใดก็ได้ ทิ้งไพ่ที่เหมือนกันอันที่ 4 ออกมา (การกั่ง สามารถเก็บไพ่ข้ามตำแหน่งทิศได้) เมื่อผู้เล่นคนไหนก็ตาม ทิ้งไพ่ตัวที่ 4 ลงมา เราจะต้องพูดว่า “กั่ง” เพื่อเป็นการเก็บไพ่และต้องเปิดไพ่ แต่การ “กั่ง” จะมีความพิเศษคือเมื่อกั่งสำเร็จ เราสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้อีก 1 ตัว

4. หนั่ง

“หนั่ง” คือไพ่ชุดเหมือนกัน 2 ตัว จากไพ่ทุกประเภททั้งตัวเลขและตัวอักษร โดยเราไม่สามารถหาไพ่ “หนั่ง” ได้จากการเก็บไพ่ แต่จะต้องหาจากการจั่วมาไว้บนมือเท่านั้น ซึ่งไพ่หนั่งมีความสำคัญมาก เพราะต่อให้ผู้เล่นเก็บไพ่ครบ 4 ชุดแล้ว แต่ไม่มี หนั่ง ในมือ ก็จะไม่สามารถน็อคได้นั่นเอง

สิ่งที่ทำได้ในการเล่นแต่ละตา

1. จั่ว คือ การจั่วไพ่จากสำรับ โดยผู้เล่นแต่ละคนจะมีไพ่ได้ 13 ตัว เมื่อจั่วไพ่เพิ่มมาแล้ว ก็จะต้องทำการทิ้งไพ่ไป 1 ตัว

2. ทิ้ง คือ การทิ้งไพ่ส่วนเกินออกไปหลังจากจั่ว ซึ่งการทิ้งไพ่ในเกมนี้ต้องระวังให้ดีเพราะผู้เล่นคนอื่นสามารถเก็บไพ่ที่เราทิ้งไปได้

3. เก็บ คือ การเก็บไพ่ที่คู่ต่อสู้ทิ้งออกมา ซึ่งจะมีวิธีเก็บไพ่ได้ 3 รูปแบบ คือ เฉ่า ผ่อง และ กั่ง และเมื่อทำการเก็บไพ่แล้วนั้น ก็จะต้องทิ้งไพ่ลงมาใหม่ 1 ตัว

4. น็อค คือ การที่ผู้เล่นเก็บชุดไพ่ได้ครบ 4 ชุด 12 ตัว และมีไพ่หนั่งในมือ อีก 2 ตัว หมายความว่าในจังหวะน็อคผู้เล่นจะมีไพ่ทั้งหมด 14 ตัว

5. น็อคมืด คือ การชนะโดยที่ไม่มีการเก็บไพ่ที่คู่ต่อสู้ทิ้งลงมาเลย แม้แต่ใบเดียว ซึ่งถ้าหากว่ามีการพนันกัน การน็อคมืดจะได้รางวัลเยอะกว่าการน็อคธรรมดา

ลำดับการเล่นไพ่นกกระจอก

1. แจกไพ่ให้ผู้เล่นแต่ละคน คนละ 13 ตัว จากนั้นผู้เล่นจึงผลัดกันเล่นตามลำดับทิศ

2. คนที่ได้เล่นเป็นคนแรกจะต้องทำการจั่วไพ่ขึ้นมาก่อน 1 ใบ จากนั้นจึงเลือกไพ่ในมือของตัวเองทิ้งไปให้เหลือในมือ 13 ใบ

3. ในจังหวะที่ผู้เล่นแต่ละคนทิ้งไพ่ ผู้เล่นคนอื่นมีโอกาสเก็บไพ่ที่ถูกทิ้งมาเกิดได้ถ้าในมือมีไพ่ครบชุด

4. ผู้เล่นคนต่อ ๆ ไปก็ให้ทำเหมือนเดิมจนกว่าจะมีใครเกิดไพ่ครบ 4 ชุด และมี ไพ่คู่บนมือ ก็จะสามารถน็อคได้โดยในจังหวะน็อคให้พูดว่า “เหมาะเจี๊ยะ” ก็เป็นอันจบเกม

สูตรบาราค่า 2 แถว kongkoi สูตรใหม่มาแรง ใช้ได้จริง

เปิดเทคนิควิธีเอาชนะด้วย สูตรบาราค่า 2 แถว kongkoi